ดังนั้น
การที่จะมีสุขภาพดีหรือทำให้ความเจ็บป่วยลดน้อยลง จึงต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือ
ลดละเลิกพฤติกรรมที่ทำให้ภาวะร้อนเย็นของร่างกายไม่สมดุลและทำพฤติกรรมที่ทำให้ภาวะร้อนเย็นของร่างกายสมดุล
ดังรายละเอียดต่อไปนี้
หมายเหตุ
การทำให้เกิดสมดุลร้อนเย็นนั้นในการปฏิบัติแต่ละข้อต้องทำด้วยใจที่เป็นสุข
ด้วยการพิจารณาประโยชน์(ยาเม็ดที่ ๘) และปฏิบัติอย่างรู้เพียรรู้พัก(ยาเม็ดที่ ๙)
พฤติกรรมร้อนเย็น
พฤติกรรม
|
ร้อนเกิน
|
สมดุลร้อน-เย็น
|
เย็นเกิน
|
๑.
อารมณ์
|
ความเครียด
ความเร่งรีบ/เร่งรัด/ เร่งร้อน
ความกลัว(ในเรื่องต่างๆ รวมถึง
หวาดกลัวกลัวมากๆในภาวะเย็นเกินจนทำแต่พฤติกรรมร้อนมากเกินพอดี
หวาดกลัวมากๆในภาวะ ร้อนเกินจนเมื่อได้รับเหตุปัจจัยร้อนเพียงเล็กน้อยก็มีอาการร้อนมาก)
ความวิตกกังวล ความไม่โปร่ง
ไม่โล่ง ไม่สบายใจ ความไม่พอใจ
ความมุ่งร้าย อาฆาต พยาบาท
ความโลภ โกรธ หลง ยึดเกิน เอาแต่ใจตัวเอง ฟุ้งซ่าน ดีซ่าน(ดีของจิตซ่าน
คือ ทำดีหรืออยากให้เกิดดีมากเกินเกินพอดี/เกินจริง จนเกิดอาการไม่สบาย) เป็นต้น
|
ละบาป
บำเพ็ญบุญ
เพิ่มพูนใจไร้กังวล
ไม่กลัวตาย
ไม่กลัวโรค
ไม่เร่งผล
ไม่กังวล
(ลดกิเลส
ลดความติดความยึดในสิ่งต่างๆที่เป็นภัยต่อตนเองและผู้อื่น)
(ทำดี
อย่างมีสุข อย่างรู้เพียร รู้พัก)
(ยาเม็ดที่
๘,๙)
|
อารมณ์เฉยๆ เฉยเมย ดูดาย ไม่คิด
ไม่พูด ไม่ทำอะไรมากเกินจนเกิดอาการไม่สบาย)
หวาดกลัวมากๆในภาวะร้อนเกิน
จนทำแต่พฤติกรรมเย็นมากเกินพอดี
หวาดกลัวมากๆในภาวะเย็นเกินจนเมื่อรับเหตุปัจจัยเย็นเพียงเล็กน้อยก็มีอาการเย็นมาก
|
พฤติกรรม
|
ร้อนเกิน
|
สมดุลร้อน-เย็น
|
เย็นเกิน
|
๒.
อาหาร
๓.การออกกำลังกาย กายบริหารและอิริยาบถ (ลักษณะการทำงาน)
๔.
การสัมผัสมลพิษต่างๆ
|
-มีสารพิษ
-มีเนื้อสัตว์
-รสจัด
-กินอาหารกลุ่มร้อนมากเกิน
-เคี้ยวไม่ละเอียด
“จนเกิดอาการไม่สบาย”
-
ออกกำลังที่ใช้แรงมากเกินจนเกิดอาการไม่สบาย
-
กลั้นลมหายใจมากไปจนเกิดอาการไม่สบาย
-
ใช้อวัยวะของร่างกายทำงานแล้ว
ไม่คลาย
ไม่ดัดกล้ามเนื้อให้เข้า
สภาพเดิมจนเกิดอาการไม่สบาย
-
สิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ อากาศมีสารพิษ มีพลังร้อนมากจนเกิดอาการไม่สบาย
|
-ไร้สารพิษ
-ไม่มีเนื้อสัตว์
-ปรุงรสเล็กน้อยเท่าที่พลังชีวิตเต็ม
-จัดสัดส่วนของอาหารกลุ่มร้อนและเย็นเท่าที่พลังชีวิตเต็ม
-เคี้ยวละเอียดดี
“เท่าที่พลังชีวิตเต็ม”
(ยาเม็ดที่
๗)
-
ออกกำลังกายที่ใช้แรงเท่าที่พอดีพลังชีวิตเต็ม
-กดจุดลมปราณ
โยคะ กายบริหาร
-
ปรับการหายใจเข้าและผ่อนลมหายใจออก เหมาะกับสภาพร่างกายเท่าที่พอดีสบาย
-
ใช้อวัยวะของร่างกายทำงานแล้วคลาย/ดัดกล้ามเนื้อให้เข้าสภาพเดิมเท่าที่สบาย
(ยาเม็ดที่
๖)
-
สิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ อากาศ
ไร้สารพิษ
เมื่อสัมผัสแล้วรู้สึกสบาย
หรือปรับสมดุลร้อน-เย็นของสิ่งแวดล้อมให้ร่างกายรู้สึกสบายหรือปรับร่างกายให้รู้สึกสบายเมื่อสัมผัสสิ่งแวดล้อมนั้นๆ
(ยาเม็ดที่
๑-๖,๙)
|
-ไม่ปรุงรสเลย
-กินอาหารกลุ่มเย็นมากเกิน
-เคี้ยวละเอียดนานเกินพอดี
“จนเกิดอาการไม่สบาย”
-
ไม่ออกกำลังกายจนเกิดอาการ
ไม่สบาย
-
ปล่อยลมหายใจออกทางปาก/จมูกมากเกินพอดีจนเกิดอาการ
ไม่สบาย
- ใช้อวัยวะของร่างกายทำงานแล้วคลาย/ดัดกล้ามเนื้อมากเกินพอดีจนเกิดอาการไม่สบาย
-
สิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ อากาศ
มีพลังเย็นมากจนเกิดอาการ
ไม่สบาย
|
พฤติกรรม
|
ร้อนเกิน
|
สมดุลร้อน-เย็น
|
เย็นเกิน
|
๕.
การสัมผัสเครื่องยนต์/เครื่องไฟฟ้า/เครื่องอิเลคโทรนิค
๖. การระบายพิษหรือลดพิษในร่างกาย
๗.
การเพียร การพัก
๘.
บาป/อกุศล
บุญ/กุศล
|
-
การสัมผัสเครื่องยนต์/เครื่องไฟฟ้า/เครื่องอิเลคโทรนิค
มากเกินความสมดุลจนเกิด
อาการไม่สบาย
-
การระบายพิษหรือลดพิษในร่างกาย (ใช้ยาเม็ดที่ ๑-๖) ด้วยวิธีที่ทำให้ร่างกายร้อนขึ้น
จนเกิดอาการไม่สบาย
-เพียรมากเกิน
พักน้อยเกิน จนเกิดอาการไม่สบาย
-ไม่ถอนพิษร้อนหรือไม่พักผ่อนหลับนอนในช่วงไฟกำเริบ(
๔ทุ่มถึงตี๒)
-ไม่ปฏิบัติศีล
๕ (ไม่ละบาป
ไม่บำเพ็ญบุญ
ไม่เพิ่มพูนใจไร้กังวล)
|
-
ไม่การสัมผัสเครื่องยนต์/เครื่องไฟฟ้า/เครื่องอิเลคโทรนิค
หรือจัดสรรเวลาเมื่อจำเป็นต้องสัมผัสมลพิษดังกล่าวเท่าที่รู้สึกสบาย หรือปรับสมดุลร้อนเย็นของร่างกายให้รู้สึกสบายเมื่อสัมผัสมลพิษดังกล่าว
(ยาเม็ดที่
๑-๖,๙)
-
การระบายพิษหรือลดพิษในร่างกาย ด้วยการปรับสมดุลร้อนเย็นตามสภาพร่างกาย ณ
ปัจจุบันเท่าที่สบาย
(ยาเม็ดที่
๑-๖)
-การเพียรเต็มที่
การพักพอดี
-เพียรให้หนัก
พักให้พอ
“เท่าที่พลังชีวิตเต็ม”
-ถอนพิษร้อนหรือพักผ่อนหลับนอนในช่วงไฟกำเริบ(
๔ทุ่มถึงตี๒)(ยาเม็ดที่ ๙)
-ปฏิบัติศีล
๕
(ละบาป
บำเพ็ญบุญ เพิ่มพูนใจ
ไร้กังวล)
๑.
ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่กินสัตว์ ไม่ค้าขายมิจฉาวณิชา
๕(สัตว์เป็น/เนื้อสัตว์/อาวุธ/ยาพิษ/สิ่งเสพติด)
ไม่ทำให้คน/สัตว์เดือดร้อนลำบากโดยประการทั้งปวง
รู้จักให้อภัย
ลดความโกรธ/อาฆาต/พยาบาท/
อึดอัดใจ/ขุ่นเคืองใจ
/รำคาญใจ
|
-
สิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ อากาศ
มีพลังเย็นมากจนเกิด
อาการไม่สบาย
-
การระบายพิษหรือลดพิษในร่างกาย (ใช้ยาเม็ดที่ ๑-๖)
ด้วยวิธีที่ทำให้ร่างกายเย็นลง
จนเกิดอาการไม่สบาย
เพียรน้อยเกิน
พักมากเกิน
จนเกิดอาการไม่สบาย
-ไม่ปฏิบัติศีล
๕
(ไม่ละบาป
ไม่บำเพ็ญบุญ
ไม่เพิ่มพูนใจไร้กังวล)
|
พฤติกรรม
|
ร้อนเกิน
|
สมดุลร้อน-เย็น
|
เย็นเกิน
|
บาป/อกุศล
บุญ/กุศล
|
-ไม่ปฏิบัติศีล
๕ (ไม่ละบาป
ไม่บำเพ็ญบุญ
ไม่เพิ่มพูนใจไร้กังวล)
|
๒. ไม่ลัก/ไม่ขโมย/ไม่ฉ้อโกง
ลดความโลภด้วยการรู้จักให้ทานแบ่งปันข้าวของ/แรงกาย/ความรู้
ให้ผู้อื่น
๓.
ไม่ประพฤติผิดในกามคุณ ๕ คือ ลด/ละ/เลิก ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสที่เป็นภัย รวมถึงการสัมผัส
ผัวเขา
เมียใคร ลูกใคร และลดละเลิกการสมสู่(เมถุน)
๔.
ไม่ใช้วาจาที่ไม่ดี
-ฝึกลด/ละ/เลิกวาจาที่ไม่ดี
ได้แก่ โกหก คำหยาบ(คำที่ส่งเสริมให้เกิดกิเลส) ส่อเสียด(ยุคนนั้นคนนี้ให้ทะเลาะกัน)
เพ้อเจ้อ(พูดไร้สาระ
พูดเล่น
พูดหัว มากเกินไป)
นินทาว่าร้าย
-ฝึกใช้วาจาที่ดี
ที่เป็นประโยชน์ วาจาที่ช่วยลดกิเลส(เหตุแห่งทุกข์) อย่างพอเหมาะพอดี
๕.
ไม่มัวเมาในสิ่งที่เป็นภัยต่อชีวิต ๔ อย่าง
๕.๑
อบายมุข ๖ ได้แก่ สิ่งเสพติด การพนัน เที่ยวดูการละเล่น
เที่ยวกลางคืน
คบคนชั่วเป็นมิตรเกียจคร้านการงาน(คนมีศีลต้องขยันการงาน ขยันทำดี)
๕.๒ กามคุณ
๕ ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่เป็นภัย
|
-ไม่ปฏิบัติศีล
๕
(ไม่ละบาป
ไม่บำเพ็ญบุญ
ไม่เพิ่มพูนใจไร้กังวล)
|
พฤติกรรม
|
ร้อนเกิน
|
สมดุลร้อน-เย็น
|
เย็นเกิน
|
บาป/อกุศล
บุญ/กุศล
|
-ไม่ปฏิบัติศีล
๕ (ไม่ละบาป
ไม่บำเพ็ญบุญ
ไม่เพิ่มพูนใจไร้กังวล)
|
๕.๓
โลกธรรม ๘ ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข นินทา
เสื่อมลาภ
เสื่อมยศ ทุกข์
๕.๔ อัตตา
๓ ได้แก่ -โอฬาริกอัตตา(หลงยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เป็นวัตถุแท่งก้อนว่าเป็นตัวเราของเราตลอดกาลนาน)
- มโนมยอัตตา(หลงยึดมั่นถือมั่นรูปที่สำเร็จด้วยจิต คือจิตสร้างจินตนาการสิ่งที่ไม่มีจริงว่ามีจริง คือ
ผู้นั้นสร้างจินตนาการจนรู้สึกว่ามีรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสเป็นตัวตน ว่าเป็นจริงมีจริง
โดยที่สิ่งนั้นไม่ได้มีจริง รวมถึงการหลงยึด
หลงติดหลงเสพรสโลกียะสุขที่จิตหลงสร้างขึ้นมา อันเป็นความรู้สึกสุขชั่วคราวเมื่อได้เสพสมใจในรูป
รส กลิ่น เสียง สัมผัสต่างๆ รวมถึงการกระทบ
การรับรู้หรือไม่รับรู้
ทุกสภาพทุกเหตุการณ์ แล้วความรู้สึกสุขนั้นก็เลือนหายไปอย่างรวดเร็วเหมือนฟองคลื่น
เหมือนพยับแดด ที่เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไปอย่างรวดเร็ว
-อรูปอัตตา(หลงยึดมั่นถือมั่นว่า
ความรู้/ความคิด/ ความเห็น/
ความเข้าใจ/ความดี/
ศักดิ์ศรี
ต้องเกิดดังใจเรามุ่งหมาย
ถ้าไม่ได้ดังที่ใจมุ่งหมายก็ทุกข์ใจ เป็นอัตตาซ้อนอัตตา เช่น
เมื่อเลิก/หยุดในสิ่งที่ไม่ดีนั้นได้แล้ว แต่ยังเหลืออัตตา
|
-ไม่ปฏิบัติศีล
๕ (ไม่ละบาป
ไม่บำเพ็ญบุญ
ไม่เพิ่มพูนใจไร้กังวล)
|
พฤติกรรม
|
ร้อนเกิน
|
สมดุลร้อน-เย็น
|
เย็นเกิน
|
บาป/อกุศล
บุญ/กุศล
๙.
การบูรณาการองค์ความรู้ในการแก้ปัญหาสุขภาพ
|
-ไม่ปฏิบัติศีล
๕ (ไม่ละบาป
ไม่บำเพ็ญบุญ
ไม่เพิ่มพูนใจไร้กังวล)
บูรณาการองค์ความรู้ในการแก้ปัญหาสุขภาพ
ไปสู่การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ(ไม่ถูกสมดุลร้อนเย็น ณ สภาพปัจจุบัน ทั้งด้านรูปธรรมและนามธรรม
โดยโต่งไปในทางร้อนเกิน จนเกิดอาการไม่สบาย) ใช้สิ่งที่ราคาแพง หาได้ยาก
ทำได้ยากและแต่ละคนทำเอาเองไม่ได้ ต้องพึ่งผู้อื่นเป็นหลัก
|
(ตัวตน)ของอารมณ์รังเกียจ/ไม่ชอบใจ/ไม่พอใจในสิ่งที่ไม่ดีนั้น,
หลงทำดีเกินพอดีจนทรมานตนเองมากเกินไปเป็นประจำ,
หลงอยากได้ดีหรืออยากให้เกิดดีเกินกว่าฤทธิ์แรงหรือความสามารถที่ทำได้จริง,
หลงลบลู่ดูถูกดูหมิ่นดูแคลนเยอะเย้ยถากถางในคนที่ด้อยหรือต่ำกว่า,
อยากได้เกียรติอยากได้ศักดิ์ศรี ถ้าไม่ได้ก็ทุกข์ใจ,
อยากให้คน/องค์กร/ชุมชน/สังคม เข้าใจหรือได้ดีดังที่เรามุ่งหมาย
แต่ถ้าไม่เข้าใจ/ไม่เกิดดี/ไม่ได้ดีดังที่ใจเรามุ่งหมาย ก็หลงทุกข์ใจ
(ยาเม็ดที่
๘)
บูรณาการองค์ความรู้ในการแก้ปัญหาสุขภาพ
ไปสู่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ(ถูกสมดุลร้อนเย็น ณ สภาพปัจจุบัน ทั้งด้านรูปธรรมและนามธรรม)
โดยใช้สิ่งที่ประหยัดเรียบง่าย และแต่ละคนทำเอาเองได้
(ยาเม็ดที่
๑-๙)
|
-ไม่ปฏิบัติศีล
๕ (ไม่ละบาป
ไม่บำเพ็ญบุญ
ไม่เพิ่มพูนใจไร้กังวล)
บูรณาการองค์ความรู้ในการแก้ปัญหาสุขภาพ
ไปสู่การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ(ไม่ถูกสมดุลร้อนเย็น ณ สภาพปัจจุบัน ทั้งด้านรูปธรรมและนามธรรม
โดยโต่งไปในทางเย็นเกิน จนเกิดอาการไม่สบาย) ใช้สิ่งที่ราคาแพง หาได้ยาก ทำได้ยาก และแต่ละคน
ทำเอาเองไม่ได้
ต้องพึ่งผู้อื่น
เป็นหลัก
|
สูตรการปรับสมดุลตามหลักแพทย์วิถีธรรม
-ถ้ามีพฤติกรรมร้อน กระทบอากาศร้อน แล้วเกิดอาการไม่สบาย ให้แก้ด้วยสูตรเย็น
-ถ้ามีพฤติกรรมร้อน กระทบอากาศเย็น
แล้วเกิดอาการไม่สบาย ให้แก้ด้วยสูตรเย็นผสมร้อน
-ถ้ามีพฤติกรรมเย็น
กระทบอากาศเย็น
แล้วเกิดอาการไม่สบาย ให้แก้ด้วยสูตรร้อน
-ถ้ามีพฤติกรรมเย็น กระทบอากาศร้อน แล้วเกิดอาการไม่สบาย ให้แก้ด้วยสูตรเย็นผสมร้อน
-ถ้ามีพฤติกรรมร้อน อยู่ในสภาพอากาศที่รู้สึกสบาย แล้วเกิดอาการไม่สบาย ให้แก้ด้วยสูตรเย็น
-ถ้ามีพฤติกรรมเย็น อยู่ในสภาพอากาศที่รู้สึกสบาย แล้วเกิดอาการไม่สบาย ให้แก้ด้วยสูตรร้อน
-ไม่ว่าจะมีพฤติกรรมใดหรือกระทบอากาศใด
แล้วเกิดอาการไม่สบายแบบร้อนเย็นเกิดพร้อมกันให้แก้ด้วยสูตรเย็นผสมร้อน
และเน้นแก้พฤติกรรมที่ทำแล้วรู้สึกไม่สบายนั้นด้วย
-พฤติกรรมใดที่ทำแล้วรู้สึกไม่สบาย ไม่เบากาย ไม่มีกำลัง
เป็นอยู่ไม่ผาสุก ให้ลดหรืองดพฤติกรรมนั้น เท่าที่รู้สึกสบาย เบากาย มีกำลัง เป็นอยู่ผาสุก
-พฤติกรรมใดที่ทำแล้วรู้สึกสบาย
เบากาย มีกำลัง เป็นอยู่ผาสุก ให้ทำพฤติกรรมนั้น เท่าที่รู้สึกสบาย
เบากาย มีกำลัง เป็นอยู่ผาสุก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น