6. การออกกำลังกาย กดจุดลมปราณ โยคะ กายบริหาร ที่ถูกต้อง
vdo การกดจุดโยคะกายบริหาร
vdo เทคนิคการฝึกหายใจปรับสมดุล
การบริหารกายที่ถูกต้องสมดุล เป็นประโยชน์สูงสุดกับร่างกาย เมื่อทำเสร็จ ต้องได้คุณสมบัติ 3 อย่าง
1. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
2. ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
3. การเข้าที่เข้าทางของกระดูก เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ
การจะได้คุณสมบัติทั้ง 3 อย่างดังกล่าว ต้องมีการบริหารกาย 2 ลักษณะ
1. การออกกำลังกายที่มีการใช้กำลังแรงกายถ้าไม่ออกกำลังกายที่ใช้่แรงกำลัง กล้ามเนื้อก็จะไม่มีกำลังที่จะบีบเอาของดีไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่มีกำลัง
ที่จะบีบเอาของเีสียออกจากร่างกาย ร่างกายก็จะเสื่อมเร็วและเกิดคววมเจ็บป่วยตามมา การออกกำลังกายที่ดีต้องใช้
กำลังเคลื่อนไหวต่อเนื่องกันนานพอประมาณ (เฉลี่ยโดยทั่วไป ใช้เวลาประมาณ 15-45 นาที อาจมากหรือน้อยกว่านี้
ก็ได้ตาม สภาพร่างกายของบุคคลนั้น ๆ ณ เวลานั้น อาจทำทุกวันหรือวันเว้นวันก็ได้)
โดยออกกำลังกายจนถึงขั้นหอบเหนื่อยแต่ไม่มากเกินไปถึงขั้นหอบเหนื่อยจนรู้สึกใจสั่นหวิวหรือพูดกบคนอื่นไม่ชัดถ้อยไม่ชัดคำ
พอพักไม่เกิน 10-20 นาที ก็สามารถหายเหนื่อยและทำงานตามปกติได้ จึงจะทำให้กล้ามแข็งแรงมีกำลังสามารถบีบของดีไป
เลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ สามารถบีบของเสียออกจากร่างกายได้ ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี เช่น ดินเร็ว (เหมาะสำหรับ
ทุกวัยโดยเฉพาะวัยผู้ใหญ่ขึ้นไป) วิ่งจ๊อกกิ้ง (มักเหมาะสำหรับเด็กหรือวัยรุ่น) กระโดดเชือก ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เป็นต้น
2. การกายบริหารที่สร้างความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น สร้างการเข้าที่เข้าทางของกระดูก กล้ามเนื้อและเ้ส้นเอ็นแพทย์แผนปัจจุบันพบว่า ถ้ากล้ามเนื้อและเ้ส้นเอ็นตึงแข็งเกร็งค้างไม่ยืดหยุ่น หรือกระดูกเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อเคลื่อน
ออกจาก ตำแหน่งปกติ ก็จะกดรัดเส้นเลือดเส้นประสาท เลือดลมจะไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้เกิดความเจ็บปวดมึนชา
และความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย
แพทย์ทางเลือกพบว่า พลังงานลมปราณ คือ พลัีงงานที่หล่อเลี้ยงร่างกาย
อันเกิดจากการ สันดาป เผาผลาญอาหาร ตั้งแต่ระดับหยาบจนถึงระดับละเอียด
และพลัีงงานที่เป็นพิษเป็น ของเสียอันเกิดจากการสันดาปอาหาร ตั้งแต่ระดับ
หยาบจนถึงระดับละเอียด รวมถึงพลังานที่เป็นพิษอื่น ๆ ที่ร่างกายรับเข้าไป
1. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
2. ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
3. การเข้าที่เข้าทางของกระดูก เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ
การจะได้คุณสมบัติทั้ง 3 อย่างดังกล่าว ต้องมีการบริหารกาย 2 ลักษณะ
1. การออกกำลังกายที่มีการใช้กำลังแรงกายถ้าไม่ออกกำลังกายที่ใช้่แรงกำลัง กล้ามเนื้อก็จะไม่มีกำลังที่จะบีบเอาของดีไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่มีกำลัง
ที่จะบีบเอาของเีสียออกจากร่างกาย ร่างกายก็จะเสื่อมเร็วและเกิดคววมเจ็บป่วยตามมา การออกกำลังกายที่ดีต้องใช้
กำลังเคลื่อนไหวต่อเนื่องกันนานพอประมาณ (เฉลี่ยโดยทั่วไป ใช้เวลาประมาณ 15-45 นาที อาจมากหรือน้อยกว่านี้
ก็ได้ตาม สภาพร่างกายของบุคคลนั้น ๆ ณ เวลานั้น อาจทำทุกวันหรือวันเว้นวันก็ได้)
โดยออกกำลังกายจนถึงขั้นหอบเหนื่อยแต่ไม่มากเกินไปถึงขั้นหอบเหนื่อยจนรู้สึกใจสั่นหวิวหรือพูดกบคนอื่นไม่ชัดถ้อยไม่ชัดคำ
พอพักไม่เกิน 10-20 นาที ก็สามารถหายเหนื่อยและทำงานตามปกติได้ จึงจะทำให้กล้ามแข็งแรงมีกำลังสามารถบีบของดีไป
เลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ สามารถบีบของเสียออกจากร่างกายได้ ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี เช่น ดินเร็ว (เหมาะสำหรับ
ทุกวัยโดยเฉพาะวัยผู้ใหญ่ขึ้นไป) วิ่งจ๊อกกิ้ง (มักเหมาะสำหรับเด็กหรือวัยรุ่น) กระโดดเชือก ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เป็นต้น
2. การกายบริหารที่สร้างความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น สร้างการเข้าที่เข้าทางของกระดูก กล้ามเนื้อและเ้ส้นเอ็นแพทย์แผนปัจจุบันพบว่า ถ้ากล้ามเนื้อและเ้ส้นเอ็นตึงแข็งเกร็งค้างไม่ยืดหยุ่น หรือกระดูกเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อเคลื่อน
ออกจาก ตำแหน่งปกติ ก็จะกดรัดเส้นเลือดเส้นประสาท เลือดลมจะไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้เกิดความเจ็บปวดมึนชา
และความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย
แพทย์ทางเลือกพบว่า พลังงานลมปราณ คือ พลัีงงานที่หล่อเลี้ยงร่างกาย
อันเกิดจากการ สันดาป เผาผลาญอาหาร ตั้งแต่ระดับหยาบจนถึงระดับละเอียด
และพลัีงงานที่เป็นพิษเป็น ของเสียอันเกิดจากการสันดาปอาหาร ตั้งแต่ระดับ
หยาบจนถึงระดับละเอียด รวมถึงพลังานที่เป็นพิษอื่น ๆ ที่ร่างกายรับเข้าไป
และแพทย์ทางเลือกก็พบว่า พลังงานที่ดีจะขับเคลื่อนไปหล่อเลี้ยงร่างกาย
มากที่สุดเร็วที่สุด ทางเส้นลมปราณ ส่วนพลังงานที่ไม่ดีจะถูกขับออกจาก
ร่างกายมากที่สุด เร็วที่สุดทาง เ้ส้นลมปราณเช่นเดียวกัน ซึ่งการเคลื่อน
ของพลังงานทั้งที่ดีและไม่ดี ดังกล่าว จะเคลื่อนตามข้างกระดูกข้าง
เส้นเอ็น ข้างเส้นประสาทและตามร่องของกล้ามเนื้อ ซึ่งตรงกับ
เส้นลมปราณหลัก 12 เส้นของแพทย์แผนจีนและเส้นลมปราณ
หลัก 10 เส้น ของแพทย์แผนไทย(เส้นสิบ)
ถ้ากล้ามเนื้อและเส้นเอ็นตึงแข็งเกร็งค้างไม่ืยืดหยุ่น หรือกระดูก
เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อเคลื่อนออกจากตำแหน่งปกติ จะทำให้การ
เคลื่อนของพลัีงงานดังกล่าวติดขัดเกิดอาการกำลังตก และเกิด
อาการไม่สบายต่าง ๆ ทันที เรียกว่าลมปราณติดขัด/ลมปราณล็อค
แต่ถ้าแก้ไขให้เกิด ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ให้เกิด
การเข้าที่เข้าทางของกระดูก เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ อาการกำลังตก
และอาการไม่สบายต่าง ๆ จะทุเลาเบาบางหรือหายไปอย่างรวดเร็๋ว
จนน่าประหลาดใจ
หลายครั้งที่ผู้เขียนพบผู้ป่วยที่อาการ หนักจวนเจียนจะเสียชีวิต
บางคนแพทย์แผนปัจจุบันถึงกับต้องให้ออกซิเจนให้ยาแผนปัจจุบันต่าง ๆ
เพื่อช่วยชีวิตฉุกเฉิน แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น หรือผู้ป่วยเรื้อรังที่ัรับประทานยา
อย่างไรก็ไม่หาย แต่พอปรับสมดุลให้เส้นลมปราณเข้าที่(เกิดความยืดหยุ่น
ของกล้ามเนื้อ และเ้ส้นเอ็น เกิดการเข้าที่ เข้าทางของกระดูก เ้ส้นเอ็น
และกล้ามเนื้อ) อาการกลับทุเลาเบาบางหรือหายไปอย่างรวดเร็ว เป็นที่น่า
ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง วิชาดังกล่าวนั้น อยู่ในแพทย์ทางเืลือกและ
แพทย์แผนไทย ที่เชี่ยวชาญ การจัดกระดูกและการกดจุดลมปราณ
และแต่ละท่านก็สามารถปฎิีบัติได้เอง หรือช่วยเหลือญาติที่ยังพึ่งตนเองไม่ได้ ด้วยการ
ฝึกกดจุดลมปราณ โยคะ กายบริหาร ซึ่งเป็นสวนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของการบำบัดรักษา
ควบคุมป้องกันโรค ฟื้นฟูสุขภาพและสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง เพราะจะทำให้เกิดการ
ไหลเวียนเลือดลมที่ดี สสารและพลังที่ดีสามารถเคลื่อนไปหล่อเลี้ยงเซลล์เนื้อเยื่อได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ สสารและพลังงานที่ไม่ดีที่เ่ป็นพิษไม่ว่าจะเป็นพิษร้อนหรือพิษเย็นสามารถ
ถูกเคลื่อนขับออกจากร่างกายได้อย่างมีประสทธิภาพ
การกดจุดลมปราณ โยคะ กายบริหาร ถ้าเราทำได้ถูกต้องหลังทำเสร็จก็จะทำให้เกิดสภาพเบาสบายและมีกำลังในตัวเราทันที
มากที่สุดเร็วที่สุด ทางเส้นลมปราณ ส่วนพลังงานที่ไม่ดีจะถูกขับออกจาก
ร่างกายมากที่สุด เร็วที่สุดทาง เ้ส้นลมปราณเช่นเดียวกัน ซึ่งการเคลื่อน
ของพลังงานทั้งที่ดีและไม่ดี ดังกล่าว จะเคลื่อนตามข้างกระดูกข้าง
เส้นเอ็น ข้างเส้นประสาทและตามร่องของกล้ามเนื้อ ซึ่งตรงกับ
เส้นลมปราณหลัก 12 เส้นของแพทย์แผนจีนและเส้นลมปราณ
หลัก 10 เส้น ของแพทย์แผนไทย(เส้นสิบ)
ถ้ากล้ามเนื้อและเส้นเอ็นตึงแข็งเกร็งค้างไม่ืยืดหยุ่น หรือกระดูก
เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อเคลื่อนออกจากตำแหน่งปกติ จะทำให้การ
เคลื่อนของพลัีงงานดังกล่าวติดขัดเกิดอาการกำลังตก และเกิด
อาการไม่สบายต่าง ๆ ทันที เรียกว่าลมปราณติดขัด/ลมปราณล็อค
แต่ถ้าแก้ไขให้เกิด ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ให้เกิด
การเข้าที่เข้าทางของกระดูก เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ อาการกำลังตก
และอาการไม่สบายต่าง ๆ จะทุเลาเบาบางหรือหายไปอย่างรวดเร็๋ว
จนน่าประหลาดใจ
หลายครั้งที่ผู้เขียนพบผู้ป่วยที่อาการ หนักจวนเจียนจะเสียชีวิต
บางคนแพทย์แผนปัจจุบันถึงกับต้องให้ออกซิเจนให้ยาแผนปัจจุบันต่าง ๆ
เพื่อช่วยชีวิตฉุกเฉิน แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น หรือผู้ป่วยเรื้อรังที่ัรับประทานยา
อย่างไรก็ไม่หาย แต่พอปรับสมดุลให้เส้นลมปราณเข้าที่(เกิดความยืดหยุ่น
ของกล้ามเนื้อ และเ้ส้นเอ็น เกิดการเข้าที่ เข้าทางของกระดูก เ้ส้นเอ็น
และกล้ามเนื้อ) อาการกลับทุเลาเบาบางหรือหายไปอย่างรวดเร็ว เป็นที่น่า
ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง วิชาดังกล่าวนั้น อยู่ในแพทย์ทางเืลือกและ
แพทย์แผนไทย ที่เชี่ยวชาญ การจัดกระดูกและการกดจุดลมปราณ
และแต่ละท่านก็สามารถปฎิีบัติได้เอง หรือช่วยเหลือญาติที่ยังพึ่งตนเองไม่ได้ ด้วยการ
ฝึกกดจุดลมปราณ โยคะ กายบริหาร ซึ่งเป็นสวนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของการบำบัดรักษา
ควบคุมป้องกันโรค ฟื้นฟูสุขภาพและสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง เพราะจะทำให้เกิดการ
ไหลเวียนเลือดลมที่ดี สสารและพลังที่ดีสามารถเคลื่อนไปหล่อเลี้ยงเซลล์เนื้อเยื่อได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ สสารและพลังงานที่ไม่ดีที่เ่ป็นพิษไม่ว่าจะเป็นพิษร้อนหรือพิษเย็นสามารถ
ถูกเคลื่อนขับออกจากร่างกายได้อย่างมีประสทธิภาพ
การกดจุดลมปราณ โยคะ กายบริหาร ถ้าเราทำได้ถูกต้องหลังทำเสร็จก็จะทำให้เกิดสภาพเบาสบายและมีกำลังในตัวเราทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น